เกาะกระแส BlackBerry รู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
พูดถึง BlackBerry หลายคนพึ่งเคยเห็น หลายคนเห็นจากคนดังหลาย ๆ คนถือออกตามสื่อ หลายคนเคยใช้ บทความนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เขียนเกิดความอยากรู้จัก(รวมถึงอยากเป็นเจ้าของ) เจ้ามือถือหน้าตาประหลาด ที่กำลังแรงอยู่ตอนนี้ ทำให้ได้ข้อมูลมาแบ่งปันกัน ก่อนที่หลาย ๆ ท่านจะตัดสินใจเป็นเจ้าของ เพราะเจ้า BlackBerry หรือ BB มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตามมารู้จักกันเลยครับ
BlackBerry (BB) คืออะไร ?

BB เป็นโทรศัพท์มือถือที่เป็น PDA เริ่มต้นมีไว้สำหรับพนักงาน ที่บริษัทจะสามารถส่งข่าวเรื่องงาน หรือส่งเอกสารให้ได้ โดยพนักงานไม่ต้องเข้ามาบริษัท มีคีย์บอร์ดเพื่อให้สามารถตอบเมล์ หรือพิมพ์เอกสารง่าย ๆ ได้ BB จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ตลอดเวลา เพื่อเตรียมพร้อมในการรับข้อมูลข่าวสารที่ส่งมาจากบริษัทได้ตลอดเวลา BB เป็นอุปกรณ์สำคัญที่บริษัทแจกเพื่อให้ส่งข่าวให้พนักงานทราบได้มานาน ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ แต่จะเป็นแค่วงแคบ ๆ เท่านั้น
สาเหตุที่ BB มาบูมมากในไทย สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้กระแส iPhone และโทรศัพท์แบบหน้าสัมผัสหน้าจอได้รับความนิยมมาก ๆ เกือบทุกยี่ห้อของโทรศัพท์มือถือต่างผลิตโทรศัพท์ที่ใช้การสัมผัสหน้าจอมาขาย เกือบจะ 90% ของโทรศัพท์ทั้งหมด ทำให้มีคนที่เบื่อโทรศัพท์หน้าจอสัมผัส และต้องการโทรศัพท์ที่ไม่เหมือนใคร หันมาใช้ BB กัน หลังจากนั้นกลุ่มดารานักแสดง กลุ่มคนไฮโซ และเซเรป ก็เริ่มหันมาใช้กันมากขึ้น และที่มีกระแสรุนแรงขึ้น เพราะมีภาพข่าวท่านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ถือ BB และมีนักข่าวถ่ายภาพมาได้ ทำให้กระแส BB แรงขึ้นอีก ทำให้คนไทยเริ่มหันมามอง BB มากขึ้น รวมถึงเริ่มมีใช้กันมากขึ้นด้วย ท่านผู้อ่านอาจจะเป็นอีกท่านที่เริ่มหันมามอง BB และเริ่มอยากครอบครอง เรามาลองดูข้อมูลเหล่านี้ก่อน ว่า BB เหมาะกับท่านหรือไม่
BB มีแบบไหนบ้าง ?
BB ที่เข้ามาในเมืองไทยมีจาก 2 แหล่งเช่นเดียวกับมือถืออื่น ๆ คือ มาจากผู้นำเข้าถูกต้อง (เครื่องศูนย์) และจากผู้ที่ซื้อมาจากต่างประเทศเพื่อมาขายกันเอง(เครื่องหิ้ว) มี 3 รุ่นใหญ่ ๆ ที่นำเข้ามาขายกัน คือ
1.BlackBerry Storm หรือ 9500 ราคาเครื่องหิ้ว 16,900 เครื่องศูนย์ 29,500

2.BlackBerry Bold หรือ 9000 ราคาเครื่องหิ้ว 21,500 เครื่องศูนย์ 25,500

3.BlackBerry Curve หรือ 8900 ราคาเครื่องหิ้ว 15,500 เครื่องศูนย์ AIS 25,500 True 21,500

ในปัจจุบัน เครื่องศูนย์มีจำหน่ายที่ AIS shop และ True shop และร้านผู้แทนจำหน่ายของทั้งสองบริษัทเท่านั้น ส่วนเครื่องหิ้วสามารถซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือดัง ๆ ได้ทุกห้าง
ข้อแตกต่างของแต่ละรุ่น
ข้อแตกต่างของทั้งสามรุ่น พอสรุปคร่าว ๆ ได้คือ Storm จะเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด จะไม่มีแป้นพิมพ์และจะเป็นระบบสัมผัสหน้าจอ ข้อดีคือ หน้าจอกว้าง รูปทรงสวย สำหรับจุดด้อยคือ ไม่มี wifi และบางท่านจะไม่ถนัดกับการสัมผัสหน้าจอที่ต้องกดลงไปด้วย สำหรับรุ่น Bold เป็นรุ่นที่มีแป้นพิมพ์ ซึ่งบางท่านเห็นว่าเป็นเอกลักษณ์ของ BB มีครบทั้ง wifi, 3G วัสดุที่ใช้ประกอบคุณภาพดี ฝาด้านหลังเป็นหนัง แต่จุดด้อยคือ หน้าจอเล็ก เครื่องใหญ่เทอะทะ เหมาะกับผู้ชายมือใหญ่มากกว่า สำหรับรุ่นสุดท้าย Curve มีระบบ wifi, EDGE รูปทรงสวยงาม มีแป้นพิมพ์ ขนาดกระทัดรัดกว่า Bold เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มือเล็ก ๆ จุดด้อยคือไม่สามารถใช้ในระบบ 3G ได้ และวัสดุจะคุณภาพสู้ Bold ไม่ได้ ข้อแนะนำคือ อยากให้ท่านที่จะซื้อ ไปสัมผัสตัวจริง และลองใช้งานดู จะได้ทราบว่ารุ่นใดเหมาะสมกับท่านที่สุด
BB กับ Service
BB ทุกเครื่องมีจุดเด่นคือ service ซึ่ง service ของ BB คือการเชื่อม BB เข้ากับเซิฟเวอร์ของ BB ที่แคนาดา ซึ่งเซิฟเวอร์ของ BB จะไปเชื่อมระบบอีเมล์, BB messenger, MSN messenger, Yahoo messenger, Facebook, Flickr, Google talk และใช้ระบบการ push mail คือเมื่อไหร่มีอีเมล์เข้ามาในเมล์บ๊อกซ์ เซิฟเวอร์จะส่งอีเมล์นั้นเข้าเครื่อง BB เราทันที จะเห็่นว่าถ้าจะใช้เครื่อง BB ให้มีศักยภาพสูงสุด เราจำเป็นต้องเชื่อมต่อ BB เข้ากับ service ตลอดเวลา นั่นแสดงว่าเราต้องต่อ edge ไว้ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน และนอกจากนั้นการเปิดบริการ service ของ BB เราจำเป็นต้องเปิดผ่านค่ายมือถือที่ได้ทำสัญญาไว้กับบริษัทแม่ของ BB เท่านั้น ซึ่งในตอนนี้มีแค่ 2 ค่ายคือ AIS และ True เท่านั้น(กำลังมีข่าวว่า Dtac กำลังจะเข้ามาเปิดให้บริการ BB ในเร็ว ๆ นี้) ซึ่งทั้งสองค่ายก็ได้ทำโปรโมชั่นไว้สำหรับผู้ใช้ BB ด้วยคือจ่ายรายเดือนเริ่มต้นที่ 650 บาท จะได้รับเปิดบริการ service ของ BB และมีการใช้งาน edge แบบ unlimit (เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา)
หากเราไม่เปิด service กับเครื่อง BB เราจะทำอะไรได้บ้าง ?
คงเป็นคำถามที่จะเกิดขึ้นเมื่อเห็นราคาค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่นเดียวกับผู้เขียน เครื่อง BB ที่ไม่เปิด service (คือไม่ต้องจ่ายเพิ่ม 650 บาทต่อเดือน) การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแต่ละครั้งคิดนาทีละบาท แต่หากท่านมีโปรโมชั่นการใช้ edge อยู่แล้วก็คิดตามราคาโปรโมชั่น จากนั้นการแชตออนไลน์เช่น BB messenger, MSN messenger, Yahoo messenger จะใช้ไม่ได้ การ push mail (เมื่อมีเมล์มาจะเตือนที่เครื่อง BB) ก็ใช้ไม่ได้ แต่ท่านจะเชื่อมต่อใช้ web browser (ใช้อินเตอร์เน็ต)ได้ โทรเข้า,รับสาย, ส่ง SMS,MMS ได้ตามปกติ จะเห็นได้ว่า ถ้า BB ไม่เปิด service เครื่อง BB ก็ไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถืออื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป
เปรียบเทียบกับ iPhone

จริง ๆ เปรียบเทียบกันยาก เนื่องจากจุดประสงค์การใช้งานต่างกัน แต่เนื่องจาก BB Storm เป็นรุ่นที่เป็นหน้าจอสัมผัส ทำให้มีหลายคนเปรียบเทียบกันระหว่างสองยี่ห้อนี้ ข้อได้เปรียบของ iPhone คือ ไม่จำเป็นต้องเปิด service เมื่อซื้อเครื่องมาสามารถใช้งานได้ทันที หากมีการเปิดบริการ edge ไว้อยู่แล้วก็ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม เพราะระบบการเช็คเมล์จะเป็นระบบ pull mail โดยที่เครื่อง iPhone ติดต่อเข้าไปที่เซิฟเวอร์ของเมล์ Yahoo, Gmail หรือ MobileMe โดยตรง ไม่ต้องผ่านเซิฟเวอร์อื่น และเมื่อเชื่อมต่อได้แล้วจะทำการดึงข้อมูลจากเซิฟเวอร์ของเมล์ต่าง ๆ มาเข้าเครื่อง iPhone เลย แต่ความหลากหลายของเมล์ก็จะไม่เท่ากับของ BB (Hotmail และ MSN จะไม่สามารถเช็คได้) และจากการใช้งานของผู้เขียน ระบบสัมผัสหน้าจอของ iPhone จะคุ้นเคยกว่าของ BB Storm เนื่องจากเครื่อง BB Storm ต้องกดหน้าจอลงไปเพื่อยืนยันคำสั่ง ซึ่งแตกต่างจากระบบสัมผัสหน้าจอของเครื่องรุ่นอื่น ๆ (แต่อาจจะรูู้สึกแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร) และสิ่งที่ BB Storm สู้ iPhone ไม่ได้คือ Wifi เครื่อง iPhone จะมีครบทั้ง Edge, 3G, Wifi เพราะในบ้านเรา ความเร็วของ edge ยังช้ากว่า Wifi มาก (แต่ต่างประเทศอาจจะไม่ต้องการใช้ Wifi เพราะความเร็วของ 3G เร็วกว่า wifi มาก อีกทั้งยังครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งหมดอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องใช้ wifi อีก) จุดด้อยของ iPhone คือระบบของ iPhone ยังเสถียรสู้ BB ไม่ได้ และความเร็วก็ยังเป็นรอง BB อยู่พอสมควร
ใครเหมาะสำหรับ BB ?
ผู้ที่เหมาะกับ BB คือผู้ที่บริษัทใช้ระบบเมล์ของ BB (เลี่ยงไม่ได้) ผู้ที่ติดการแชตเป็นชีวิต ว่างเป็นต้องแชต ถ้าท่านใช้ BB ท่านจะสามารถแชตได้ตลอดเวลา ทุกที่ ทุกเวลา เพราะ BB เชื่อมต่อตลอดเวลาและเชื่อมต่อกับเซิฟเวอร์ของ MSN, Yahoo, BB messenger ตลอดเวลา จัดว่าเป็นเครื่องแชตในฝันเลยล่ะ และอีกกลุ่มที่เหมาะกับ BB คือ ผู้ต้องติดต่อเมล์อยู่เป็นประจำ ต้องพิมพ์อีเมล์บ่อย ๆ คนกลุ่มเหล่านี้รีบหา BB มาใช้โดยด่วนเลยครับ เพราะนี่คือโทรศัพท์ในฝันของท่านเลยครับ
สิ่งที่ควรทราบ และอาจจะยังไม่มีใครบอก
ระบบ 3G ของเครื่อง BB เป็นคลื่น 2100 MHz ซึ่งระบบ 3G ของ AIS ไม่รองรับ ฉะนั้นเครื่อง BB ที่เปิด service กับ AIS จะไม่สามารถใช้ระบบ 3G ได้ (คงใช้ได้เฉพาะ EDGE) แต่ถ้าเปิด service กับ True จะสามารถใช้ 3G ได้ในบริเวณที่ให้บริการ เช่น Central world, Paragon
ค่าเปิด service ของแต่ละบริษัทราคาไม่เท่ากัน ศึกษาเงื่อนไขและโปรโมชั่น เปรียบเทียบให้ดีก่อนซื้อ เพราะเครื่องราคาและคุณภาพเหมือนกัน จะต่างกันตรงแพคเกจของแต่ละบริษัทที่จะเลือกและความครอบคลุมของเครือข่ายครับ และสำหรับแพคเกจ BB ของ True นั้น ไม่สามารถรวมกับแพคเกจอื่น ๆของ Trueได้ แต่ของ AIS สามารถใช้ร่วมกับแพคเกจอื่น ๆ ที่ใช้อยู่ได้ครับ
อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านคงจะได้คำตอบกับตัวเองแล้วนะครับว่า BB เหมาะกับท่านหรือไม่ ถ้าเหมาะจะเลือกรุ่นใด และจะเลือกเปิด service กับค่ายมือถือไหน แต่อย่าลืมเศรษฐกิจพอเพียงนะครับ วิเคราะห์ให้ดีว่าจำเป็นกับเราจริง ๆ หรือเปล่า เพราะเมื่อตัดสินใจซื้อ ตัดสินใจเปิด service แล้วการเปลี่ยนใจมันมีมูลค่าเสมอครับ ชั่งใจให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ
Mr.Keyman / 9 กรกฎาคม 2552
ติดต่อถามปัญหากับ Mr.Keyman ส่งมาได้ที่ E-mail:neonet980@hotmail.com
|